ณ จังหวัดตรัง

พ่อลูกชาวเยอรมันประทับใจ คนตรังช่วยลากเรือยอร์ชพากลับฝั่งอย่างปลอดภัย วันนี้ผู้สื่อ ข่าว รายงานว่า นายเจน โครล และนางสาวเทสซ่า โครล ลูกสาว กล่าวขอบคุณหน่วยงานในจังหวัดตรัง และชาวประมง ที่ให้ความช่วยเหลือ หลังจากศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงจังหวัดตรัง ได้รับการประสานงานจากหน่วยกู้ภัยทาง ทะเล  ตำรวจน้ำกันตัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเหตุเรือยอร์ชสัญชาติเยอรมัน ประสบเหตุเครื่องยนต์ขัดข้องลอยลำกลางทะเล ซึ่งในขณะนั้นในทะเลมีคลื่นลมที่กำลังแรงเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงร้องขอความช่วยเหลือเพื่อนำเรือกลับเข้าฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงประสานเรือประมงชื่อถนอมชล 8 ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เข้าช่วยเหลือทำการลากจูงเพื่อนำเรือกลับเข้าฝั่ง บริเวณท่าเรือเจ้าท่า อำเภอกันตัง โดย 2 พ่อลูก ชาวเยอรมัน บนเรือปลอดภัย นายเจน โครล กล่าวว่ารู้สึกดีใจและปลื้มใจเป็นอย่างมากที่มีคนเข้ามาช่วยเหลือช่วยลากเรือมายังท่าเทียบเรือกันตัง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งๆ ที่พยายามยินยอมและเต็มใจที่จะจ่ายค่าลากเรืออยู่แล้ว และขณะที่ช่างซ่อมเรือเข้ามาซ่อมเรือให้นานกว่า 2 ชั่วโมง ก็ไม่สามารถซ่อมได้ก็ไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่

5 ร้านอร่อย ห้ามพลาดที่...‘เมืองตรัง’ 5 ร้านอร่อย ห้ามพลาดที่...‘ เมืองตรัง ’ เมือง ตรัง นอกจากจะเป็นเมืองสวยงามแล้ว ในเรื่องของ อาหาร ก็เป็นที่ติดใจของผู้ทีได้ไปเยือนเช่นกัน บทความนี้พาไปพบกับ 5  ร้านอาหาร คาวและหวานห้ามพลาดหากได้ไปเยือน ‘เมือง ตรัง ’ 1. ร้านอาหาร เลตรัง ร้านติ่มซำที่ขึ้นชื่อของเมืองตรัง การตกแต่งร้านที่ดูดี มีเมนูหลากหลายทำให้เป็นที่ติดใจของคนในเมืองตรังได้ไม่ยาก อีกทั้งยังมีผู้คนนอกท้องถื่นมาเยือนมากมาย ต่างบอกอร่อยเป็นเสียงเดียวกัน ใครที่เยือน ‘เมืองตรัง’ แล้วพลาดไป น่าเสียดายมากๆ เวลาเปิด-ปิด  :  6.00-14.00 และ 17.00-21.00 โทรศัพท์  : 075 217 700 ที่ตั้ง  : 13 ถนนไทรงามซอย 2 อำเภอเมือง 2.ร้านอาหาร พงษ์โอชา ไม่ต้องแปลกใจที่เมืองตรังนั้นมีติ่มซำมากมาย เพราะในสมัยก่อนชาวจีนมาค้าขายกับประเทศไทยเป็นประจำ จึงใช้ประเทศไทยเป็นที่พักชั่วคราวระยะสั้นๆ ร้าน’พงษ์โอชา’ เป็นร้านติ่มซำลำดับต้นของจังหวัดตรังเช่นกัน คนที่จังหวัดตรังไม่กินติ่มซำกับ‘จิ๊กโฉ่ว’แบบที่อื่น แต่จะจิ้มกับ‘ส้มเจื่อง’แทน มีรสชาตเปรี้ยวๆหวานๆ หากพักที่เมืองตรังหลายวัน ต้องไปเยือนส

10 เรื่องในเมืองตรังที่คุณ อาจไม่เคยรู้ 10 เรื่องในเมือง ตรัง ที่คุณไม่เคยรู้ จังหวัดตรัง  เป็นจังหวัดชายทะลฝั่ง ทะเล อันดามัน หลายคนหลงใหลความงดงามของธรรมชาติของเมือง ตรัง  ทว่าเมืองตรังมีหลายเรื่องที่คุณยังไม่เคยรู้ 1.คนตรังเรียกตัวเมืองว่า "ทับเที่ยง" ตัวเมืองตรังในสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง)อยู่ที่อำเภอกันตัง กันตังเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วง 2445-2460 ด้วยเพราะมีทั้งท่าเรือ ทางรถไฟสายกันตัง-ทุ่งสง ทางรถไฟสายเดียวในฝั่งทะเลอันดามัน มีการตัดถนนเชื่อมไปยัง จ. นครศรีธรรมราช พัทลุงด้วย ก่อนย้ายมาที่บ้านทับเที่ยงซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองในปัจจุบัน คนตรังเลยเรียกตัวเมืองว่าทับเที่ยง 2.พระยารัษฎาฯเกิดระนอง แต่ทำให้เมืองตรังเจริญ พระยารัษฎาฯ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2400 ที่ จ. ระนอง ในครอบครัวชาวจีนฮกเกี้ยน เริ่มรับราชการเมื่อปี พ.ศ. 2425 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตำแหน่งหลวงบริรักษ์โลหะวิไสย ผู้ช่วยเจ้าเมืองระนอง แล้วเลื่อนเป็นเจ้าเมืองกระบุรีในตำแหน่งพระอัตฎงคตทิศรักษา   กระทั่งปี พ.ศ. 2433 รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศร

ชื่นชม เด็กชายวัย 12 ปี ช่วยหลวงตาพิการออกรับบิณฑบาต มานานกว่า 2 ปี ชื่นชม เด็กชายวัย 12 ปี ช่วยเข็นรถโยกให้หลวงตาพิการออกรับบิณฑบาต ซึ่งป่วยด้วยโรคเก๊าท์อย่างรุนแรงไม่สามารถเดินได้ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 ที่วัดสีหราษฎร์ศรัทธา ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง พระประทีป คงคาชนะ อายุ 64 ปี ที่ต้องนั่งรถโยกออกจากวัดเพื่อไปรับบิณฑบาตจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทั้งขึ้นเนินและลงเนินเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากป่วยเป็นโรคเก๊าท์อย่างรุนแรงทำให้ปวดขาทั้งสองข้างไม่สามารถเดินบิณฑบาตได้ นอกจากนี้ ยังเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบและความดันโลหิตสูง จึงมีพระลูกวัดอีกรูปหนึ่งทำรถเข็นหรือรถโยกให้ โดยทุกเช้าจะออกรับบิณฑบาตห่างจากวัดไม่เกิน 1 กิโลเมตร เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินสูง โดยเฉพาะขากลับปากทางเข้าวัด พระประทีป ไม่สามารถโยกรถเข็นขึ้นไปได้ จึงมีเด็กชายธนพัฒน์ หวาหาบ อายุ 12 ขวบนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนวัดสีหราษฎร์ศรัทธา ปั่นจักรยานจากบ้านมาช่วยเข็นรถให้ทุกเช้า ซึ่ง ด.ช ธนพัฒน์ (น้องไกด์) ได้ติดตามพระประทีปมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.4 หรือตั้งแต่พระประทีปยังเดินบิณฑบาตได้ จนเมื่อต้นปี

ไอเดียแจ่มว้าว! ร่มผ้าขาวม้า ขายรับปีใหม่ ทำเงินเกือบ 10,000 บาทต่อวัน กลุ่มทอผ้านาหมื่นศรี ผุดไอเดียนำผ้าขาวม้าทำร่มขายรับปีใหม่ สร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกือบ 10,000 บาทต่อวัน วันนี้ (22 พ.ย. 60 ) ผู้สื่อข่าว MThai ได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านนาหมื่นศรี ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง หลังสืบทราบว่าหมู่บ้านดังกล่าวมีกลุ่มทอผ้าที่ใช้ผ้าขาวม้ามาเป็นส่วนประกอบในการผลิตร่มขายสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบว่ามีแม่บ้านจำนวนมากกำลังนั่งทำร่มลายผ้าขาวม้ากันอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้จากการสอบถามนางอารอบ เรืองสังข์ ประธานกลุ่มทอผ้านาหมื่นศรี ได้เผยว่า การผลิต ร่มผ้าขาวม้า ดังกล่าวเป็นไอเดียของสมาชิกของกลุ่มที่เห็นว่าผ้าขาวม้าน่าจะนำมาประกอบเป็นร่มได้จึงลองทำขึ้นมาเมื่อ 2-3 เดือนก่อน จนเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่มาเห็นและพากันซื้อไปเป็นของฝาก เนื่องจากเห็นว่าร่มผ้าขาวม้าสวยงามและสีสันสดใสแปลกตาไม่เหมือนใคร  ซึ่งแบบแต่ละอย่างก็เป็นความคิดของสมาชิกที่คิดกันออกมาเอง สำหรับร่มผ้าขาวม้าจากฝีมือกลุ่มทอผ้านาหมื่นศรี มีหลายขนาดทั้งค้นเล็กและคันใหญ่ มีราคาตั้งแต่ 350-75

ไม่สนน้ำมัน-แก๊สขึ้น ร้านข้าวมันไก่ใจเด็ด ขอขายแค่จานละ 20 บาท สุดยอดร้านอาหารขวัญใจประชาชน หลังตรึงราคาขอขายแค่ 20 บาท ไม่หวั่นแม้น้ำมัน – แก๊สหุงต้มปรับตัวสูงขึ้น ชี้ขอแค่พออยู่ได้แม้จะไม่ได้กำไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว MThai รายงานว่า แม้ช่วงนี้สภาวะเศรษฐกิจน้ำมันขึ้นราคา แก๊สหุงต้มขึ้นราคา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนถ้วนหน้า แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของร้านบ้านเราข้าวมันไก่ เพราะเขาจะตรึงราคาขอขายแค่จานละ 20 บาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในพื้นที่ โดยนางสาวอุไรวรรณ นาคเล็ก หรือน้องอุ๊ อายุ 20 ปี เจ้าของร้านข้าวมันไก่ เผยว่า สาเหตุที่ยังคงขายข้าวมันไก่ราคานี้นั้น เป็นเพราะสงสารประชาชนที่แบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จึงอยากช่วยเหลือแบ่งเบาบ้าง อย่างน้อยให้ได้ทานของอร่อยราคาถูกในยุคของขึ้นราคานี้ แม้ตัวเองจะไม่ได้กำไร แต่ก็ได้มีงานทำพอให้ร้านอยู่ต่อไปได้ สำหรับร้านบ้านเราข้าวมันไก่ ตั้งอยู่ที่ ถ.ควนขัน ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง เปิดตั้งแต่เวลา 07.00 น.-15.00 น. หากใครอยากไปชิมรสชาดและร่วมอุดหนุนก็สามารถเดินทางไปได้ ซึ่งร้านนี้เปิดทุกวันไม่ม

อร่อยลงตัว! "ซาลาเปาไส้หมูย่าง" โอทอป 5 ดาว เจ้าแรกในตรัง โอทอป 5 ดาว! "ซาลาเปาไส้หมูย่าง" เจ้าแรกในตรัง คิดค้นสูตรผสมผสานหมูย่างของดีขึ้นชื่อ จ.ตรัง ได้อย่างลงตัว เป็นที่ชื่นชอบของนักชิม ยอดขายพุ่งพรวดสัปดาห์ละกว่า 1 พันลูก วันที่ 1 สิงหาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านอาหารเลตรัง เลขที่ 13 ถนนไทรงามซอย 1 ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นางอุษา เกลี้ยงช่วย อายุ 64 ปี คิดค้นเมนูอาหารสูตรเด็ดที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการนำหมูย่างรสเด็ด ซึ่งเป็นสินค้าโอทอประดับ 5 ดาว ของ จ.ตรัง มาทำไส้ซาลาเปา จนกลายเป็นซาลาเปาหมูย่าง คิดสูตรที่กลมกล่อมและเก็บไว้ได้นาน โดยไม่ต้องใช้สารเคมีใดๆ จากการลองผิดลองถูกมานานกว่า 3 เดือน จนกระทั่งได้สูตรลับเฉพาะที่ลงตัวและทำออกจำหน่ายในราคาลูกละ 25 บาท ทำขายมานานเกือบ 1 ปี จนแน่ใจในรสชาติและความอร่อย จึงส่งไปคัดสรรสุดยอดสินค้าโอทอปที่สำนักงานพัฒนาชุมชน จ.ตรังในปี 2553 และได้โอทอประดับ 5 ดาวมาครองเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวใน จ.ตรัง ทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นจากวันละประมาณ 20-30 ลูกกลายเป็น 50-60 ลูก หากนึ่งสุกแล้วสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง

รถตุ๊ก ๆ หัวกบ เสน่ห์เมืองตรัง (อดีดที่มา) รถตุ๊ก ๆ หัวกบ  เป็นรถบรรทุกสามล้อขนาดเล็ก ที่ใช้ใน การขนส่ง สิ่งของสำหรับอุตสาหกรรมขนาดเล็กจาก ประเทศญี่ปุ่น  ถูกดัดแปลงมาจากรถบรรทุกสามล้อขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็น ยานพาหนะ สามล้อขนส่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในสมัยก่อน โดยเน้นการออกแบบตัวรถและสีของรถให้เป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะตัวรถในรูปแบบของกระบะสามล้อขนาดเล็ก ไม่มีหลังคาครอบด้านหลัง อีกทั้งหัวรถยังมีลักษณะคล้ายกับหัวกบ จึงทำให้รถบรรทุกสามล้อขนาดเล็กคันนี้ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในประเทศแถบเอเชียรวมทั้งประเทศไทย ปัจจุบัน  รถตุ๊ก ๆ หัวกบ  กลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของอำเภอ เมืองตรัง  แม้จะมีอายุที่มากกว่าครึ่ง ศตวรรษ แล้วก็ตาม แต่ในปัจจุบันชาวตรังยังคงใช้ รถตุ๊ก ๆ หัวกบเป็น รถโดยสาร บริเวณรอบอำเภอเมืองตรัง จึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจนักถ้าหากจะเห็นนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยว จังหวัดตรัง ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มักจะไม่พลาดโปรแกรมนั่งรถตุ๊ก ๆ หัวกบตระเวนรอบเมืองตรัง ประวัติ บริษัท  ไดฮัทสุ  (Daihatsu Motor Co., Ltd.) เริ่มทำการผลิตรถบรรทุกสามล้อขนาดเล็กในปี พ.ศ. 250

ตรัง เจ้าบ่าวขี่ช้างสู่ขอเจ้าสาว พ่อให้สินสอดช้าง 2 เชือก งานแต่งสืบทอดทายาท “ช้างชนช้าง” เจ้าบ่าวหนุ่มนักธุรกิจส่วนตัวชาว อ.นาโยง จ.ตรัง หอบสินสอดทองหมั้น พร้อมด้วย ช้าง 2 เชือก และแห่ขบวนช้าง 23 เชือก ไปสู่ ขอเจ้าสาวเป็นทองแผ่นเดียวกันสุดยิ่งใหญ่  วันที่ 24 ก.ค. ที่บ้านเลขที่ 23 ม.10 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้มีการจัดพิธีมงคลสมรสและจดทะเบียนบนหลังช้าง  ระหว่าง นายมาโนช นุ่มใหม่ เจ้าบ่าววัย 31 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว กับ น.ส.ทิพย์วิมล ดวงแก้ว อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บริการภาคพื้นของสายการบินแห่ง หนึ่ง โดยมี นายสมเกียรติ ดวงมณี นายอำเภอห้วยยอด เป็นประธานในพิธี ท่ามกลางแขกเหรื่อจำนวนมาก สำหรับการแต่งงานในครั้งนื้ ถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ สมกับเป็นงานช้างจริงๆ เพราะฝ่ายเจ้าบ่าวเดินทางมากับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ แบบไม่ธรรมดา  นั่นคือ ได้ชี่ช้าง พร้อมกับขบวนขันหมาก สินสอดทองหมั้น และเงินสดอีก 500,000 บาท แหวนเพชร 1 วง เ บรรดาญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมเป็นสักขีพยานรักหลายร้อยคน และงานวันนี้สร้างความสนใจให้กับผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากใน จ.ตรัง ยังไม่เคย