พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี อ.กันตัง ณ จังหวัดตรัง
ประวัติความเป็นมา เดิมพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีเป็น “จวนเก่าเจ้าเมืองตรัง” หรือบ้านพักของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี อดีตผู้ว่าราชการเมืองตรัง ซึ่งได้ย้ายที่ตั้งเมืองจากควนธานีมาอยู่ที่กันตัง ในปี พ.ศ. 2433 – 2444 เมื่อพระยารัษฎาฯ ถึงแก่อนิจกรรม บ้านหลังนี้จึงตกเป็นของพระยารัษฎาธิราชภักดี (คออยู่จ่าย) บุตรชายของท่าน ซึ่งบุตรชายท่านได้ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ทำการสำนักงานบริษัทเบียนเจง ณ ระนอง และมีลูกหลานตระกูล ณ ระนองเป็นผู้ดูแลรักษาบ้านหลังนี้สืบต่อกันมา
ภายหลัง ชาวกันตังและเทศบาลเมืองกันตัง เห็นว่าบ้านหลังนี้เป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ควรรักษาไว้คู่เมืองตรัง จึงได้ขออนุญาตเจ้าของบ้านเพื่อปรับปรุงบ้านหลังนี้ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2535 โดยใช้ชื่อว่า พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ทั้งนี้ก็เพื่อรำลึกถึงคุนูปการของพระยารัษฎา ผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองตรังเมื่อครั้งอดีต.............
ลักษณะทั่วไป พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีลักษณะ เป็นเรือนไม้ทรงปั้นหยาสีขาว 2 ชั้น บริเวณรอบๆ บ้านปลูกต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นแก่บ้าน และมีรูปปั้นจำลองขนาดเล็กของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีตั้งตระหง่านอยู่หน้าทางเข้า เมื่อเข้ามาถึงตัวบ้านจะพบรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าคนจริงของพระยารัษฎาฯ สวมเสื้อผ้าแบบเจ้าเมืองสมัยก่อน และมีอากัปกิริยาในทางนั่งอยู่บนเก้าอี้ เหมือนกำลังคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเรือนของท่าน.....
ภายในตัวบ้าน ฝาผนังทำด้วยไม้ทาสีเขียวอ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นเย็นตา ส่วนชั้นล่างของบ้านมีภาพถ่ายเก่าแก่ของพระยารัษฎาฯ ภาพบุคคลที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองตรังหลายท่าน และภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ของเมืองตรังในอดีตจัดแสดงอยู่บนข้างฝาผนังมากมาย นอกจากนี้บริเวณห้องด้านล่างยังมีทั้งห้องทำงานของท่านเจ้าเมืองตรัง ซึ่งจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยก่อนไว้มากมาย ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ใส่ของที่สั่งทำโดยช่างฝีมือชาวจีน อีกทั้งยังมีกล้องถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์เก่าแก่ของท่านจัดแสดงไว้ให้ชมด้วย โดยมีหลักฐานจารึกว่าพระยารัษฏาฯ เป็นนักเล่นกล้องถ่ายรูปรุ่นแรก ๆ ของประเทศไทย จึงทำให้บ้านของท่านเต็มไปด้วยรูปถ่ายมากมาย และบริเวณด้านหลังบ้านยังเป็นส่วนของห้องครัวซึ่งจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องใช้ในการทำครัวสมัยก่อนให้ได้ชื่นชมกันอีกด้วย
ส่วนบริเวณชั้นสองของบ้าน จะเป็นห้องนอนและห้องรับแขก ซึ่งมีการจัดแสดงเครื่องเรือนโบราณต่างๆ ซึ่งลูกหลานเจ้าของบ้านหลังนี้ได้ช่วยกันดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ต่อไป ได้แก่ โต๊ะรับแขกสมัยก่อน โต๊ะเครื่องแป้ง เตียงโบราณแบบยุโรปสมัยรัชกาลที่ 5 และภาพถ่ายเก่า เป็นต้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ซึ่งลูกหลาน ณ ระนอง และเทศบาลกันตังได้ช่วยกันดูแลรักษาให้มีสภาพคงเดิมมากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคารทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงเครื่องเรือนเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นของเก่าแก่ที่เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกหลานชาวเมืองตรัง และนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสได้สัมผัสร่องรอยทางประวัติศาตร์ และกลิ่นอายความรุ่งเรืองของเมืองตรังเมื่อครั้งในอดีตผ่านสิ่งของเหล่านี้
เครดิต http://www.smartandaman.com/%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%87/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น