แอบเช็กโทรศัพท์แฟน ระวังติดคุก
แอบเช็กโทรศัพท์แฟน ระวังติดคุก
หลายคนที่เป็นคู่รักกัน เคยเจอปัญหานี้ไหม "การแอบเช็กโทรศัพท์" ว่าเราแอบคุยกับใครบ้าง ไปกดไลค์ใครบ้าง วันนี้ ทนายรัชพล ศิริสาคร อธิบายข้อกฎหมายไว้ในเพจสายตรงกฎหมายว่า "การแอบดูโทรศัพท์ของแฟนหรือของผู้อื่น กฎหมายไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นความผิด แต่มันจะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พรบ คอม เพราะเจ้าโทรศัพท์สมัยนี้มันดันเป็นสมาทโฟนซะเกือบหมดแล้ว ดังนั้น พรบ คอม มันจึงเข้ามาคุ้มครองการแอบเข้าไปดูข้อมูลโทรศัพท์เหล่านี้ด้วย
พฤติกรรมการเข้ารหัสโทรศัพท์ของแฟนหรือของคนอื่น อาจเข้าข่ายเป็นการเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นก็ไม่ได้มีไว้สำหรับตน ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์โดยหากมีการเอาโทรศัพท์แฟนมาดูโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเค้าตั้งรหัสไว้แล้วเราแอบปลดรหัสเข้าไปส่อง ก็อาจเข้าข่ายมีความผิดได้ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไป
พฤติกรรมการเข้ารหัสโทรศัพท์ของแฟนหรือของคนอื่น อาจเข้าข่ายเป็นการเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นก็ไม่ได้มีไว้สำหรับตน ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์โดยหากมีการเอาโทรศัพท์แฟนมาดูโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเค้าตั้งรหัสไว้แล้วเราแอบปลดรหัสเข้าไปส่อง ก็อาจเข้าข่ายมีความผิดได้ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไป
ในยุคที่โซเชียลกำลังมาแรง ดูแล้วอะไรๆ ก็สะดวกสบายไปซะหมด จนเราลืมไปแล้วว่า มันมีกฎหมายมาควบคุมตรงนี้ด้วย ถ้าเป็นเพื่อนกัน เป็นคู่รักกัน และยังรักกัน อะไรๆ ก็ดีไปหมด แต่เมื่อไรที่ความรักมันหมดลง กฎหมายมันจะถูกเอามาใช้บังคับทันที การดูโทรศัพท์คนอื่นจึงต้องระวังกันให้มาก ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ใช้ในกรณีที่เป็นสมาทโฟนเท่านั้น โทรศัพท์รุ่นเก่าๆ ที่ไม่ใช่สมาทโฟน ก็ไม่เป็นความผิดตาม พรบ คอม เพราะโทรศัพท์รุ่นเก่าๆ มันไม่ใช่คอมนั่นเอง
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3 “ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่งหรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอรที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สําหรับตน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ"
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3 “ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่งหรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอรที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สําหรับตน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ"
ขอบคุณข้อมูล : สายตรงกฎหมาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น