3รูปเล็ก

งานฉลองรัฐที่เดียวในไทย ณ จังหวัดตรัง

เที่ยวงานเหลิม+งานหลองรัฐ+งานกาชาด

ช่วงเดือนธันวาคมเป็นช่วงเวลาที่มีเทศกาลประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดตรังนั้นคือ งานเฉลิมพระชนมพรรษา โดยจะเริ่มงานวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ต่อด้วยงานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาด เป็นเวลา 10 วัน 10 คืน

งานนี้ต้องขอบอกว่าคนเยอะมากจริงๆ เบียดเสียดกันแน่นทุกพื้นที่ ทุกวัน ยิ่งเวลากลางคืนคนก็ยิ่งเยอะ รถก็ติดกันยิ่งกว่ากรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ แต่ที่ได้รับอานิสงค์กันไปเต็มๆก็คือ ขาประจำพวกรับฝากรถนั้นเอง ผมว่ารับเละเลยงานนี้สิบวันสิบคืน ผมเองหาที่จอดรถไม่ได้เลยจำเป็นต้องฝากเหมือนกัน ประเทศไทยก็เป็นอย่างนี้แหละด้วยความคับแค้นใจ ที่สาธารณะแท้ๆจอดไม่ได้ต้องเสียตังค์ พูดแล้วเซ็ง แต่ก็ว่าเถอะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป

ก็ทุกบ้านมีรถยนต์ มีมอเตอร์ไซด์กัน จำนวนรถมันก็เลยเยอะ ก็เลยเป็นช่องทางหากินของพ่อค้าหัวใสกัน ผมจำได้ว่าเมื่อสมัยก่อนมีรถประจำทางรับส่งกันตลอดทั้งกลางวันกลางคืนคนส่วนมากมารถโดยสารกัน เลยไม่มีรับฝากรถ แต่ตอนนี้ไม่มีรถประจำทางรับส่งแล้วเพราะทุกคนมารถส่วนตัวกัน มันก็เลยจำเป็นต้องฝาก

มาเที่ยวงานเหลิมหรืองานหลองรัฐ ที่ขาดไม่ได้คือบรรดาพ่อค้าแม่้ค้า ที่มาตั้งแผงขายกันอยู่กันข้างถนน ถ้าบอกว่าไปเที่ยวงานเหลิมแล้วสิ่งที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านก็คือข้าวหลาม งานอื่นๆไม่ค่อยมีนะแต่ถ้าเป็นงานเหลิมแล้ว จะเห็นเป็นภาพชินตาไม่ว่าจะสมัยก่อนหรือปัจจุบันส่วนมากจะว่าขายข้างถนนแถวประตูทางเข้างาน ทุกประตู มีหลายจ้าวนั่งเหลากระบอกข้าวหลามกันอยู่

ส่วนมากแ่ม่ค้าจะเป็นป้าๆ ย่า ยายกัน มานั่งขายกัน และที่ผมชอบอีกอย่างก็คือน้ำหวานหลากสีที่ใส่ขวดแก้วใบใหญ่ ติดไฟนีออน สะท้อนกับสีน้ำหวานหลากสีทำให้ดูน่ากินดี รู้สึกันดับกระหายได้ดีเมื่อเที่ยวมาเหนื่อยๆ ผมว่ามันเป็นกลิ่นอายของงานเหลิมดี และไม่ใช่เท่านั้นที่เห็นไม่ขาดเลยก็มี ไก่ทอด ไก่ย่าง ลูกชิ้น ขนมเบื้อง ข้่าวโพดอบเนย มีขายไม่ขาดเลยจริงๆไม่รู้กี่จ้าวเต็มข้างทาง

เข้ามาในงานก็จะเป็นของขายมากมายจิปาถะ เสื้อผ้ามีมากมายอยู่แล้วทุกงาน ร้านรองเท้า ร้านกระเป๋าบ้าง ร้านค้าเต็มไปหมด ถ้าจะซื้อคงต้องเดินถามราคาดูให้ดีเพราะมีอยู่หลายร้านเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อร้านไหนดี คงต้องดูที่ถูกใจและราคาของอย่างนี้อย่างรีบ ถ้าอยากซื้อให้ถูกจริงๆ ต้องมาวันหลังๆ วันที่เข้าเลิกงานแล้วหรือเก็บของอยู่ เช่น พวกฟอนิเจอร์ไม้ต่างๆ ต้องมาซื้อวันสุดท้ายหรือหลังหมดงานแล้วจะต่อได้มาก ต่อให้เยอะๆเลย เพราะ เขาขี้เกียจขนกลับอีก แม่ผมไ้ด้ราคาดีมาหลายชิ้นแล้วขอบอก

แต่มีอยู่ร้านค้าชนิดหนึ่งซึ่งผมพึ่งจะเคยเห็นปีนี้หรือปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยมีมาก่อน มีคนไปมุงดูกันเยอะมาก ผมก็เลยใช้วิญญาณไทยมุงเข้าไปมุงด้วย นั้นก็คือร้านขายของเล่นนี่เองแต่จะเป็นพวกเครื่องบินบังคับวิทยุ รถยนต์บังคับวิทยุ ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าแปลกอะไร แต่นั่นสิ มันมีอยู่ว่าพี่่คนขายที่พูดออกไมค์พูดเก่งมากพูดได้ทั้งวัน และมีช่วงนาทีทองเยอะจริงๆ ลดราคากันแบบไม่น่าเชื่อยิ่งกว่าครึ่งต่อครึ่งอีกต่ำกว่าครึ่งก็ว่าได้

แล้วทุกชิ้นลดกันกระหน่ำ ผมไม่รู้ว่าราคาท้องตลาดที่แท้จริงมันเท่าไหร่แล้วพี่แกเอามาลดราคา แต่ถ้าฟังราคาไม่ลดกับลดต่างกันลิบลับ ฟังแล้วเกิดกิเลสเหมือนจะตะคลุบแย่งกัน พอบอกราคาแล้วใครจะเอาให้รีบยกมือก่อน ใครยกก่อนได้ก่อน ถ้าโมบนิดหน่อยไม่คิดให้ดีเผลอตัวยกมือก็ต้องซื้อแล้ว ผมว่าเขาฉลาดจริงๆใช้ช่วงนาทีทองอันน้อยนิดมาเร่งการตัดสินใจ ให้รีบตัดสินใจซื้อโดยเร็วเพราะถ้าช้าก็กลัวคนอื่นจะแย่งตัดหน้าไป ไม่รู้มีหน้าม้าหรือปล่าวผมก็ว่าไปไม่รู้หนิแต่ที่เห็น นาทีทองทุกรอบมีคนซื้อไปทุกรอบ สรุปว่าขายดีเป็นเทน้ำเททั้งท่า

เดินเข้ามาใจกลางงานใกล้เวทีกลาง ต้องบอกว่ากลางเพราะมีหลายเวทีไม่กลางก็หลายเวที ทั้งเวทีคอนเสิร์ต ลิเก เอ๊หนังตะลุงมีรึปล่าวไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆที่ไม่มีก็คือหนังกลางแปลงไม่มีมาหลายปีแล้วเสียดายบรรยากาศเก่าๆ ใกล้เวทีกลางก็จะเป็นบริเวณงานกาชาด ตักกาชาดกันใหญ่ได้แค่ตะกร้า แก้วน้ำ แต่ไม่เป็นไรได้ทำบุญ ถ้าอยากจะลุ้นรางวัลใหญ่สุดต้องมาวันสุดท้าย เพราะเขาคงจะใส่รางวัลใหญ่วันสุดท้าย มันออกแต่วันสุดท้ายหนิ ตักมาสิบวันไม่ออกเลยรางวัลใหญ่ ไอ้พัดลม หม้อหุงข้าวก็มีออกบ้าง รางวัลใหญ่ออกวันสุดท้ายตลอดทุกปี ผมก็ลืมดูว่ารางวัลใหญ่เป็นอะไร ไม่รู้ว่ามอเตอร์ไซด์หรือรถยนต์

ตักกาชาดเสร็จก็มาโซนแสดงความสามารถชิงรางวัลกัน ก็ไอ้ตุ๊กตาตัวใหญ่ๆที่แขวนหนะมันล่อใจ ถ้ามากับสาวๆชัวเลยต้องเล่นสักหน่อย เอาตุ๊กตาให้เธอ หรือเด็กๆก็ชอบกันแต่ส่วนมากจะเห็นแต่วัยรุ่นนะ ปาลูกโป่งมั่ง ยิงปืนบ้าง ยิงปางนูก็มีหรือภาษากลางเรียกว่ายิงหนังสติ๊ก ยิงกระป๋องยิงล้มหมดได้ตุ๊กตาตัวไหนเลือกเอา บางเกมดูแล้วไม่น่ายากเช่นโยนห่วง โยนใกล้ๆแค่นิดเดียวเองแต่โยนไม่ได้เสียตังอีก ปาลูกโป่งก็ใช่ว่าง่ายต้องดูที่ลูกโป่งใหม่ๆหน่อย ถ้าเก่าๆปาแล้วมันเด่ง แต่ที่ผมชอบก็ปาจิงโกะ สนุกดียิ่งมาเล่นกันหลายๆคนแล้วหร่อย

เดินทั่วงานแล้วเสียดายไม่มียิงปืนแบบจุกยางที่ยิงโดนเป้าแล้วมีลิงตีฉาบ หรือมีตัวตุ๊กตาเต้นแล้วมีเพลงดัง เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว จำได้ว่าตอนเด็กๆ งานเหลิมทีไรต้องเล่นทุกครั้ง เมื่อก่อนเขาจะจัดงานแถวหน้าศาลากลางพอเลิกเรียนก็แวะยิงปืนก่อนกลับบ้าน พอยิงโดนแล้วมีเสียงดังตุ๊กตาเต้นแล้วมันมันดี ผมว่ามันสนุกกว่ายิงแล้วเอารางวัลเป็นตัวล่อนะ แต่ถึงว่านะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปของเก่าๆมันก็จางหายไป

เที่ยวยังไม่ทั่วงานก็ต้องกลับก่อนเพราะขี้เกียจเดินเบียดเสียดกัน เลยชมบรรยากาศ แสงไฟที่ประดับประดาข้างถนน บริเวณงาน ผมว่างานเหลิมหรืองานหลองรัฐหรืองานกาชาดนี่ มันเหมือนกับงานวัดขนาดใหญ่ ทุกคนในจังหวัดทุกอำเภอต้องมา จะมีคำพูดหรือคำถามเวลาสนทนากันในช่วงนี้ว่า "ไปเที่ยวงานเหลิมแล้วม้าย " หรือ "ไปเที่ยวงานหลองรัฐแล้วม้าย" พูดเป็นภาษาใต้นะ เป็นเทศกาลประจำปีของชาวตรัง ยิ่งใหญ่มาก มาเที่ยวงานหลองรัฐทุกปี

จะรู้สึกถึงกาลเวลาที่เปลี่ยนไป บางอย่างที่เคยมีกลับไม่มี บางอย่างก็มีขึ้นมาใหม่แรกๆก็แปลกดีมีคนสนใจ แต่ไม่นานก็จางหายไปตามกาลเวลา แล้วก็มีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นมาอีก และก็รู้สึกว่าเรานี่แก่ไปอีกปีแล้วนะเพราะจะเข้าสู่ปีใหม่อีกแล้วนะ ซึ่งช่วงงานเหลิมจะเป็นช่วงที่เริ่มทบทวนว่าตลอดทั้งปีทำอะไรไปบ้าง นี่ก็จะสิ้นปีแล้วนะ ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันรึยัง จะผ่านไปอีกปีแล้วนะ งานเหลิมงานสุดท้ายของปี

เครดิต : https://trangtuktuktravel.blogspot.com/

ความคิดเห็น

หลายรูป

new1

loading...

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงเรียนอนุกูลสตรีทับเที่ยง โรงเรียนสตรี แห่งแรก เมืองตรัง

อีกหนึ่งความภูมิใจของคนตรัง 4 สถานที่ที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ณ จังหวัดตรัง

เขาต่อยไห อ.เมือง ณ จังหวัดตรัง