หยงสตาร์แหล่งเรียนรู้ศึกษา ภูมิปัญญาชาวบ้าน ประวัติศาสตร์ยาวนาน
หยงสตาร์แหล่งเรียนรู้ศึกษา ภูมิปัญญาชาวบ้าน ประวัติศาสตร์ยาวนาน สถานที่ท่องเที่ยวพัฒนา ผลิตสินค้าชั้นนำ วัฒนธรรมยังรักษา กระโจมไฟสูงสง่า ตันหยงสตาร์เมืองท่าโบราณ" หยงสตาร์ หรือชื่อเต็มว่า ตันหยงสตาร์ หมายความว่า แหลมที่ยื่นไปในทะเล (ตันหยงแปลว่าแหลม) มีที่มาจาก ลักษณะภูมิประเทศ ที่มีแหลมยื่นไปในทะเล โอบรอบหมู่บ้านไว้ เพราะพื้นที่ของตันหยงสตาร์ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงสู่ทะเลอันดามันโดยมีแหลมหยงสตาร์อยู่ตรงปลายสุด ถ้ามองจากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นชุมชนตันหยงสตาร์คล้ายหัวเผือก คือ คอดกิ่วด้านบนแล้วค่อย ๆ ป่องออกตรงกลางพอไปด้านล่างจะค่อย ๆ เรียวเล็กลงตรงจุดปลายแหลม
แหลมหยงสตาร์ เป็นแหลมหินที่ยื่นลงไปในทะเล พื้นน้ำหน้าแหลมหยงสตาร์มีลักษณะเป็นอ่าวที่มีท่าเทียบเรือที่ยื่นออกไปในอ่าว ยามเย็นจะมีร้านค้ามาขายอาหารบริเวณท่าเทียบเรือนี้ บรรยากาศร่มรื่น ชมพระอาทิตย์ตกดินเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก และที่สำคัญยังมีฝูงนกยาง นับร้อยตัวมาหากินในช่วงน้ำลงของทุกวัน หินหัวช้าง หินหัวช้างอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแหลมหยงสตาร์ เป็นกลุ่มหินริมทะเลวางเรียงรายกันอยู่ บ้างก้อนมีลักษณะคล้ายหัวช้างจึงเป็นที่มา หินหัวช้าง ชาวบ้านแถบนี้มีความเชื่อว่า มีทวดศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่ตามหมู่หินเหล่านี้ ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมาเก็บภาพธรรมชาติที่หินหัวช้างนี้ เกาะตะบันหรือเกาะสะระบัน
เป็นเกาะหินปูน ลักษณะเป็นภูเขาสูงกลางทะเลห่างจากแหลมหยงสตาร์ไปทางทิศตะวันกเฉียงใต้ เกาะตะบัน เป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวแม่ไก่นับพันตัว ในช่วงเย็นจะเห็นฝูงค้าวคาวบินรอบๆเกาะตะบัน เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะมาถ่ายภาพความประทับใจไว้ ปลาเค็มผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่ชุมชนหยงสตาร์มีผลิตภัณฑ์ปลาเค็มปลอดสารพิษ ชาวบ้านจะตากปลาเค็มจากแสงแดดตามธรรมชาติ สามารถพบเห็นวิถีชีวิตชุมชนได้อย่างแท้จริง ปลาเค็มที่นี่จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นของฝากจากชุมชน สำหรับผู้ที่สนใจท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ ซึมซับวิถีของชุมชนชาวใต้ หยงสตาร์เป็นอีกที่หนึ่งที่รอคอยนักเดินทาง นักท่องเที่ยวทุกท่าน มาเยี่ยมเยือน ตามคำขวัญที่ว่า
"หยงสตาร์แหล่งเรียนรู้ศึกษา ภูมิปัญญาชาวบ้าน ประวัติศาสตร์ยาวนาน สถานที่ท่องเที่ยวพัฒนา ผลิตสินค้าชั้นนำ วัฒนธรรมยังรักษา กระโจมไฟสูงสง่า ตันหยงสตาร์เมืองท่าโบราณ" หมู่บ้านตันหยงสตาร์เป็นชุมชนที่มีมาแต่โบราณนับพันปี และมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศด้านชายฝั่งตะวันตก เช่น สิงคโปร์ ปีนัง และหัวเมืองชายฝั่งอื่นๆ ด้านคาบสมุทรมลายู การทำมาค้าขายย่อมอาศัยความรู้ทางคณิตศาสตร์ จำเป็นที่จะต้องรู้ภาษาต่าง ๆ เช่น ภาษามลายู ภาษาจีนเป็นต้น ในปี พ.ศ. 2440 สมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภัคดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง)
มาเป็นผู้ว่าราชการเมืองตรัง มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองเมืองตรังเสียใหม่ อำเภอท่าพญาซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านท่าพญาก็ถูกย้ายมาตั้งอยู่ที่บ้านหยงสตาร์ พร้อมกับเปลี่ยนชื่ออำเภอเป็นอำเภอปะเหลียน มีหลวงพิทักษ์โยธา (ปาน) เป็นนายอำเภอ เมื่ออำเภอปะเหลียนตั้งอยู่บ้านหยงสตาร์ (ปัจจุบันเป็นชุมชนตันหยงสตาร์) เหตุผลที่พระยารัษฏานุประดิษฐ์มหิศรภัคดี ย้ายอำเภอจากท่าพญา มาตั้งที่บ้านหยงสตาร์ น่าจะเป็นเพราะบ้านหยงสตาร์นั้นเจริญมากกว่าเป็นชุมชนใหญ่ มีอ่าวจอดเรือระหว่างปากคลองหยงสตาร์กับเกาะเหลาตรง (ปุเลาตะฮง) มีเรือขนาดใหญ่เข้ามาจอด
ภูมิประเทศของชุมชนตันหยงสตาร์ มีส่วนสำคัญต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนนิสัยใจคอ เพราะพื้นที่ของตันหยงสตาร์ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงสู่ทะเลอันดามันโดยมีแหลมหยงสตาร์อยู่ตรงปลายสุด ถ้ามอบจากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นชุมชนตันหยงสตาร์คล้ายหัวเผือก คือ คอดกิ่วด้านบนแล้วค่อย ๆ ป่องออกตรงกลางพอไปด้านล่างจะค่อย ๆ เรียวเล็กลงตรงจุดปลายแหลม
ขอบคุณของมูลจากFB บุญครอง คันธฐากูร ในกลุ่ม ย้อนรอยเมืองตรัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น