ต่อลมหายใจ ! ครอบครัวเกษตรกรโดนบังคับ คดีขับไล่ออกจากอ.ต.ก.ตรัง หลังฟังคำตัดสินศาลปราณียืดเวลาอีก 3 เดือน..!?
วันที่ 26 มีนาคม 2561 จากกรณีครอบครัวเกษตรกรจำหน่ายพันธุ์ไม้ที่ตลาด อ.ต.ก.จังหวัดตรัง โดนบังคับคดีขับไล่ออกจากที่ดินในตลาดขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกรจังหวัดตรัง ตามคดีหมายเลขดำที่ บค.25/2559 ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ นางสาวโสภา สุดฝ้าย หอบบุตรชาย 2 คน วัย 7 ปี และ 4 ปี พร้อมด้วยนายสมพงค์ สุดฝ้าย (บิดา) และนางถวิล สุดฝ้าย(มารดา) เดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดตรัง เนื่องจากวันนี้(26 มีนาคม 2561) ตนและครอบครัวจะต้องรับฟังคำตัดสินของศาลจังหวัดตรัง ให้ออกจากพื้นที่และขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ในตลาด อ.ต.ก.จังหวัดตรัง ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จนในที่สุดศาลจังหวัดตรังตัดได้ยืดเวลาให้อีก 3 เดือน ครอบครัวสุดฝ้ายใจชื้นเต็มปอดเป็นล้นพ้น ที่ได้รับความเมตตาปราณีจากศาลและน้ำพระทัยพระบารมีจากในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ตนเองและครอบครัวได้เดินทางไปด้วยตนเองเพื่อถวายฎีกาที่พระราชสำนัก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อร้องขอความช่วยเหลือให้แก่ตนเองและครอบครัว
ด้านนางสาวโสภา สุดฝ้าย กล่าวว่า ศาลท่านปราณี ขยายเวลาไปอีก 3 เดือน ให้ทางพระราชสำนักช่วยเหลือ ให้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจมาก เพราะว่าหากศาลไม่ได้ขยายเวลาให้วันนี้ ทางหน่วยงานอ.ต.ก.จะต้องจับขังตนอย่างแน่นอน เนื่องจากทางทนายของเขาได้แจ้งมาแล้ว ว่า ผอ.อ.ต.ก.ของเขาต้องการให้ทำแบบนั้น ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำกับทรัพย์สินของตนเองยังไง แต่ว่าวันนี้ต้องขังตัวเองอย่างแน่นอนเพราะให้ถอนประกัน ซึ่งในระยะเวลา 3 เดือนนี้ตนเองจะขึ้นไปที่พระราชสำนักอีกครั้ง เพื่อติดตามเรื่องติดตามผลว่าจะช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้อย่างไรบ้าง ว่าให้ความช่วยเหลือได้แค่ไหนยังไง และตนก็ไม่ใช่จะดื้อรั้นที่จะยึดพื้นที่ของเขาที่จะอยู่ อ.ต.ก.ตลอด แต่ว่า หากทาง อ.ต.ก. ช่วยขยับขยายพื้นที่ตรงอื่นให้ตนเอง หรือเขาต้องการพื้นที่ของพ่อ (นายสมพงค์ สุดฝ้าย)เพื่อที่
จะไปทำ มินิ อ.ต.ก. ตนก็ยอมให้ได้แต่ว่ากันพื้นที่ตรงอื่นให้ตนเองได้เอาของไปวางและได้ขายตรงอื่นได้ เนื่องจากในอ.ต.ก.ยังคงมีพื้นที่ว่างอยู่ และสำหรับแปลงของตนเองและของแฟนเขายังไม่บังคับคดีแต่คาดว่าคงไม่นานเหมือนกัน หากเกิดการบังคับคดี ตนเองและครอบครัวก็เดือดร้อนทั้งหมดเลย ซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไร และในระหว่าง 3 เดือนนี้จะขึ้นไปติดตามผลที่กรุงเทพฯที่พระราชสำนัก ให้ได้เร็วที่สุด ไม่อยากให้เกินเวลาอีก ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง เพราะครอบครัวเรามีแค่นี้ ส่วนพ่อของตนคือ นายสมพงค์ สุดฝ้าย มีอาการดีขึ้นเนื่องจากได้ไปพักผ่อนที่บ้าน
และรู้สึกชุ่มฉ่ำปอดที่ได้ฟังผลวันนี้ หัวใจเต้นดีขึ้นเยอะ เพราะก่อนหน้านี้ ซึ่งในวันนี้เขายืนยันว่าจะถอนประกันและจับขังแน่นอน เนื่องจากทรัพย์สินของตนยังอยู่ในพื้นที่ แต่ตนไม่มีทางที่จะไปอยู่ตรงอื่นเพราะเราไม่มีเงินทุน มีเหตุหลายอย่างที่ทำให้เราไปไหนไม่ได้ เพราะเราเป็นเกษตรกรหาเช้ากินค่ำ หากเหมือนคนที่ร่ำรวยก็สามารถไปลงทุนใหม่ได้ และถ้าหากทางอ.ต.ก.ได้เข้ามาพูดจาและช่วยแก้ปัญหาทางนี้ให้ตนเองได้ ซึ่งตนได้ขึ้นไปที่กรุงเทพฯเพื่อที่จะให้หลายๆหน่วยงานเพื่อมาเป็นปากเป็นเสียงแทนตัวเองเพื่อจะมาขยับขยายให้ แก้ปัญหานี้ให้ หากไม่ให้อยู่ก็ให้หาผู้ค้ารายใหม่มาเซ้งร้านต่อจากตนเองก็ได้ เพราะตนเองก็เคยคุยกับผู้ค้ารายใหม่เขาก็พร้อมที่จะมาเซ้งร้านต่อจากตนเช่นกัน ซึ่งตนเองก็เคยลองคุยกับผู้ค้ารายใหม่ก็มีผู้ค้ารายใหม่พร้อมที่จะมาเซ้งร้านต่อจากตนเพื่อที่จะมาช่วยเหลือตน ในขณะที่บางคนมีเงิน 4-5 แสนบาทคนรวยๆเงินแค่นี้ไม่เยอะเขาก็พร้อมที่จะแก้ให้ได้ แต่ทางอ.ต.ก.ไม่ได้ยืดเวลาตรงนั้นให้กับตนเองเลย ซึ่งนางโสภา สุดฝ้าย และครอบครัว ซาบซึ้งในน้ำพระทัยพระบารมีในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้แสดงถึงความจงรักภักดีและกล่าวคำขอขอบพระคุณน้ำพระทัยของพระเจ้าแผ่นดินที่มีให้กับประชาชนที่ให้ตนเองมีโอกาสตรงนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พระเจ้าแผ่นดินจะให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวตนเองได้ ซึ่งหนทางนี้เป็นหนทางสุดท้ายหนทางเดียวที่ตนเองและครอบครัวมี
ขอบคุณภาพ/ข่าว สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ตรัง ดูคลิปที่ http://www.tnews.co.th/contents/o6/433369
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น