3รูปเล็ก

ประวัติวัดภูเขาทอง ต.น้ำผุด อ.เมือง ณ จังหวัดตรัง

ประวัติวัดภูเขาทอง ต.น้ำผุด อ.เมือง ณ จังหวัดตรัง

ประวัติเริ่มต้น เมื่อศึกษาประวัติที่ดินวัดภูเขาทอง พบว่าไม่มีผู้ใดถวายที่ดินให้วัด แต่อาศัยที่มีพระพุทธไสยาสน์เกิดขึ้นก่อน จึงทำให้บริเวณนี้ไม่อาจสร้างสถานที่อย่างอื่นได้ จึงกลายเป้นวัดโดยปริยาย แต่ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีวัดภูเขาทอง ดังจะได้เล่าให้ฟังพอสังเขปต่อไป ตามหลักฐานทะเบียนโบราณวัตถุโบราณสถาน อำเภอเมือง จังหวัดตรัง มีบันทึกไว้ดังนี้ ภูเขาชุมทอง ตำบลน้ำผุดเหนือ อำเภอเมือง (เดิมเป็นอำเภอทับเที่ยง) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๓๕ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๗๘

ลำดับเจ้าอาวาส รูปที่ ๑ ไม่ปรากฎนามแน่ชัด รูปที่ ๒ พระอธิการเล็ก จนทโน (๒๕๐๒ - ๒๕๓๑) รูปที่ ๓ พระชีพ ขุนทอง (๒๕๓๑- ๒๕๓๖) รูปที่ ๔ พระครูโอภาสธรรมวิมล (นวน) (๒๕๓๖-๒๕๓๗) รูปที่ ๕ พระครูภาวนาสมาธิคุณ (แดง) สุธีโร (๒๕๓๗ - ปัจจุบัน) (เริ่มเข้ามาบูรณะวัดภูเขาทองเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒)

วัดภูเขาทองตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ จดทะเบียนเป็นวัดสมบูรณ์ตาม พ.ร.บ. ลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ วัดภูเขาทองได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ ขนาดกว้าง ๒๕ เมตร ยาว ๔๐ เมตร ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไปเล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๕๐ ง.

ตามประวัติที่เล่าสืบกันมาในท้องถิ่น มีตำนานเก่าแก่ที่เล่าขานกันมานานว่า มีวัดภูเขาทองขึ้นมาได้เพราะอดีตเจ้าเมืองพัทลุง ที่ชื่อว่าขุนศรีศรัทธา (เจ้าหน่อ) และพระชายาผู้มีนามว่า พระนางเลือดขาวนั่นเอง ประมาณ พ.ศ. ๑๔๙๓ เจ้าหน่อและนางเลือดขาว ได้รับข่าวอันเป็นมงคลยิ่งว่า พระเจ้าศรีธรรมโศกราชที่๒ ผู้เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช กำลังเตรียมบูรณะ เสริมสร้างพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช ให้เป็นไปตามที่ลังกาสร้างไว้ เมื่อเจ้าเมืองทราบก็พยายามช่วยเหลือการบูรณะครั้งนี้ ด้วยการนำเอาทรัพย์สินเงินทองไปร่วมถวายเป็นพุทธบูชา บรรจุไว้ในองค์พระธาตุ

จ้าหน่อและนางเลือดขาวไดด้เดินททางจากบางแก้วมาถึงเมืองตรัง ได้สร้างวัดพระศรีสรรเพชญ์ และวัดพระพุทธสิหิงค์ และได้จำลองพระพุทธสิหิงค์จำลองไว้ที่วัดองค์หนึ่ง ระหว่างเดินทาง ก็ทราบข่าวว่าองค์พระบรมธาตุมหาเจดีย์ ได้สร้างเสร็จแล้ว เจ้าหน่อและนางเลือดขาวจึงตัดสินใจนำทรัพย์สินเงินทอง ของมีค่าทั้งหลายบรรจุไว้ในถ้ำภายใต้เขาชุมทอง และเขาหลักจันทร์ (เขาโหรง) พร้อมกับอธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยพิทักษ์รักษา เพื่อจะได้นำสมบัติที่เก็บไว้นี้มาสร้างวัดวาอารามตามความตั้งใจเดิมต่อไป

หลังจากนั้นก็ได้สร้างพระพุทธไสยาสนืสวมเทริดมโนราห์ไว้หน้าปากถ้ำ ทั้งสองแห่ง ในแต่ละแห่งได้ผูกคำกลอนปริศนาธรรมตามแบบฉบับครูมโนราห์ว่า " ลำแตนมีแลนครอบศพ ผู้ใดแก้จบ ทำกินไม่รู้สิ้น " และมีอีกบทหนึ่งว่า " หนองหัดมีพัดเสมา มีทุ่งหญ้าคา มีป่าเรียง "ต่อมามีชาวต่างชาติที่มาทำเหมืองแร่ในบริเวณใกล้เคียง สามารถไขปริศนาธรรมที่เขาหลักจันทร์ได้ จึงได้นำทรัพย์สมบัติกลับไปยังบ้านเมืองของตน นับแต่นั้นมาพระพุทธไสยาสน์ที่เขาหลักจันทร์ก็ถูกคนทำลายจนย่อยยับ ดังนั้นในปัจจุบันจึงคงเหลือพระพุทธไสยาสน์ทรงเทริดมโนราห์ที่วัดภูเขาทองเพียงองค์เดียวเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่มากองค์หนึ่ง และกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อมีการสร้างพระพุทธไสยาสน์ไว้ที่เขาชุมทองแล้ว บริเวณนี้จึงเป็นโบราณสถาน ที่มีโบราณวัตถุอันล้ำค่าคือ พระพุทธไสยาสน์องค์ดังกล่าว ดังนั้นทางการจึงสงวนที่แห่งนี้เอาไว้อย่างดี ประกอบชาวบ้านน้ำผุด ต่างก็ช่วยกันดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี จนมีการสร้างวัดขึ้นในเวลาต่อมา

เครดิต : http://oknation.nationtv.tv/blog/watphukaothongtrang

ความคิดเห็น

หลายรูป

new1

loading...

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงเรียนอนุกูลสตรีทับเที่ยง โรงเรียนสตรี แห่งแรก เมืองตรัง

อีกหนึ่งความภูมิใจของคนตรัง 4 สถานที่ที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ณ จังหวัดตรัง

อร่อยลงตัว! "ซาลาเปาไส้หมูย่าง" โอทอป 5 ดาว เจ้าแรกในตรัง